Saturday, October 9, 2010

เรื่องเล่าในห้องสอบ (โปรเจ็ก) ตอนที่ 3 นู๋หน่อย นักขายมือทอง

เรื่องเล่าในห้องสอบ (โปรเจ็ก) ตอนที่ 3 นู๋หน่อย นักขายมือทอง

ด้วยเป็นคนเชื่อมั่นในตัวเองสูง พูดจาคล่องแคล่วฉะฉาน ลักษณะทมัดแทมง ในหมู่เพื่อแล้ว หน่อยเป็นคนอัธยาศัยดี แต่ก็ยังติดนิสัยดื้นรั้น อยู่พอควร จากความเชื่อมั่นที่มีอยู่อย่างมากมายนั่นเอง ทำให้สิ่งที่เพื่อนๆ คอยพร่ำเตือนอยู่เสมอนั้น ไม่เข้าไปอยู่ในโสทประสาทของหน่อยเท่าใดนัก แม้แต่เรื่องทำโปรเจ็กซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญในการเรียนสาขาคอมพฯ ก็ตาม

เฮ้ย... หน่อย แกไม่ทำเองอย่างนี้ แล้วเวลาสอบจะทำได้รึ…?” เสียงเตือนจากเพื่อนผู้หวังดี แต่ไม่ใยหน่อยจะทำหูทวนลม ยังทำตรงกันข้าม หน่อยยอมเสียเงิน จ้างให้คนที่หน่อยไม่เคยรู้จัก ไม่ใช่แม้แต่จะเป็นเพื่อนร่วมสถาบัน มาช่วยทำโปรเจ็กของหน่อย หน่อยมั่นใจว่าสิ่งที่หน่อยทำสามารถทำให้หน่อยสอบผ่านและจบการศึกษาได้อย่างง่ายดาย ก่อนสอบหน่อยได้รับการติวเข้มจากบุคคลที่หน่อยจ้างมา เป็นอย่างดี คำสั่งในโปรแกรมทุกบันทัด หน่อยจำได้เกือบหมดแล้ว กอปรกับอาชีพพนักงานขาย ที่หน่อยทำอยู่ ทำให้หน่อยยิ่งมั่นใจว่า ความเชี่ยวชาญในการพูดให้คนอื่นหลงใหล และคล้อยตาม เป็นเครื่องมือที่สำคัญ ซึ่งจะทำให้การสอบครั้งนี้ ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

อันที่จริงแล้ว หน่อยไม่ค่อยจะรู้เรื่องคอมพฯ สักเท่าใดนัก แต่ที่ต้องมาเรียน เพราะเป็นสาขาเดียวที่เปิดให้เรียนในภาคค่ำ หน่อยยึดมั่นในอาชีพงานขาย ที่สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับหน่อยด้วยดีเสมอมา การขายของหน่อยนั้นเรียกว่าขั้นเทพ เพราะความที่หน่อยสามารถพูดจาคล่องแคล่ว และโยงเรื่องราวต่างๆ เข้าด้วยกันได้อย่างแนบเนียน ลื่นไหล แม้เรื่องราวเหล่านั้นจะไม่เกี่ยวพันกันเลยก็ตาม ด้วยความสามารถพิเศษนี้ ลูกค้าจำนวนมากของหน่อยจึงคล้อยตาม จับต้นชนปลายไม่ถูก และสุดท้ายก็ยินดีซื้อสินค้าของหน่อยอย่างง่ายดาย

บ่ายวันอาทิตย์ที่ร้อนระอุ แต่ภายในห้องสอบกลับเย็นยะเยือกอย่างบอกไม่ถูก วันนี้หน่อยเตรียมตัวมาอย่างดี หน่อยจำโปรแกรมที่เขียนได้เกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ และด้วยบุคลิกสาวมั่นของหน่อย ทำให้ดูแล้วหน่อยน่าจะรับมือกับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นได้อย่างไม่ยากนัก

กรรมการสอบเริ่มทยอยเข้ามาในห้องสอบแล้ว แต่ละท่านดูเป็นมิตร ไม่เหมือนที่เพื่อนบอกสักหน่อย เห็นมะ ... เพื่อนชอบขู่เรา..หน่อยบอกกับตัวเอง นั่นอาจเป็นการปลอบประโลมจิตใจตนเอง ที่ลึกๆ แล้วแฝงไว้ด้วยความวิตกกังวล

เราเริ่มกันเลยนะครับกรรมการเอ่ยขึ้น

นักศึกษามีเวลา 40 นาทีในการสอบ เริ่มอธิบายโปรแกรมที่นักศึกษาทำมาได้ครับ กรรมการท่านเดิม แจงเงื่อนเวลา

หน่อยเริ่มอธิบายโปรแกรมที่คนอื่นช่วยทำมา ได้อย่างคล่องแคล่ว ว่องไว ด้วยความมั่นใจ และประสบการณ์งานขายของหน่อย ทำให้หน่อยสามารถพูดได้อย่างราบรื่นต่อเนื่อง

เวลาผ่านไปแล้วราว 15 นาที เมื่อหน่อยบรรยายสรรพคุณโปรแกรม หรือสินค้า ในใจของหน่อย โดยรวมเสร็จสิ้น

ไหน นักษา ลองแก้โปรแกรม ตรงจุดนี้ ให้สามารถรวมผลลัพท์ ตามตัวอย่างที่ผมเชียนให้ด้วยครับ กรรมการท่านหนึ่งถาม พร้อมเขียนตัวอย่างผลลัพท์ลงในกระดาษให้หน่อยดู

หน่อยหันหน้ามองกรรมการด้วยสายตามเบิกโพรง พร้อมถามกลับไปว่า ให้นู๋ ... แก้โปรแกรม หรือค่ะ

ถูกต้องครับ เข้าใจคำถามแล้วเริ่มได้ครับ กรรมการท่านเดิมยืนยัน หน่อยพยายามกับการแก้ไขโปรแกรมตามที่กรรมการต้องการอยู่ราว 10 นาที แต่ดูเหมือนว่า การแก้ไขโปรแกรมครั้งนี้ ทำให้ชีวิตของหน่อย และโปรแกรมของหน่อย ดูยุ่งยากมากขึ้นทุกที

นู๋แน่ใจหรือว่า ต้องแก้ไขโปรแกรมแบบนั้นหรือครับ กรรมการเอ่ย

หน่อยหันหน้า ขวับกลับมาที่กรรมการ ก็อาจารย์สั่งว่า ....ไม่ใช่หรือค่ะ ดูเหมือนหน่อยกำลังสับสนอะไรบางอย่าง กับคำถามของกรรมการ

ไหนนู๋ลองทบทวนด้วยครับ ดูว่าเข้าใจตรงกันหรือไม่ กรรมการท่านเดิมกล่าว

ค่ะ... หน่อยทบทวนคำถาม และอธิบายสิ่งที่หน่อยเข้าใจ แต่ด้วยความเคยชินกับนักขายมืออาชีพ ทำให้หน่อยสามารถอธิบายคำถาม กับสิ่งที่เข้าใจ ให้ร้อยเรียงกันได้อย่างไม่น่าเชื่อ

กรรมการเริ่มมองหน้ากัน กระซิบกระซาบปรึกษากัน ต่อหน้าหน่อย ถึงสิ่งที่หน่อยอธิบาย

ผมว่าสิ่งที่คุณอธิบาย กับคำถามมันขัดแย้งกันนะครับ กรรมการท่านหนึ่งแย้ง

แต่นู่ว่าไม่นะคะ อาจารย์เข้าใจนู๋ไหมค่ะ คือว่า... หน่อยเริ่มอธิบายอีกครั้ง และพยายามยกเหตุผลต่างๆ มาร้อยเรียงเพิ่มมากขึ้น แม้สิ่งเหล่านั้นจะไม่เกียวข้องกันเลย เหมือนเอาสุนัขมาอธิบายรวมกับเรือดำน้ำ

เดี๋ยวครับ.... ผมถามว่าอย่างนี้นะครับ กรรมการย้ำคำถาม

ค่ะ นู๋เข้าใจ แล้วหน่อยก็ไม่ใยอธิบายต่อตามที่ตนเองรู้ แถมด้วยเรื่องต่างๆ อีกมากมายที่ตนเองท่องมา เสริมเติมแต่งเข้าไปอีกได้อย่างแนบเนียนเช่นเคย

นักษา ครับ ไปกันใหญ่แล้วครับ ... กรรมการแย้งขึ้นอีก

อย่างนี้นะค่ะ อาจารย์ สิ่งที่อาจารย์ถาม นู๋ไม่รู้ค่ะ แต่สิ่งที่นู๋รู้ มีดังต่อไปนี้....คะ อาจารย์ หน่อยหลุดออกมาในที่สุด แต่ก็ยังคงไว้ด้วยแววตาที่มาดมั่น :)

หมายเหตุ
บทความนี้ เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ห้ามใช้เป็นบรรทัดฐานในการสอบ
ตัวละครในเรื่อง ถือว่าไม่มีอยู่จริง ผู้เขียนขออภัย หากมีพฤติกรรมไปคล้ายหรือเหมือน
ผู้หนึ่งผู้ใด ผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาล้อเลียน

เรื่องอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน จะทยอย นำมาลงไว้ในที่นี้ เมื่อนึกขึ้นได้ แล้วจะแจ้งให้ทราบ

อุ้ย เอง อะ

เรื่องเล่า ในห้องสอบ(โปรเจ็ก) ตอนที่ 2 เมื่อความเงียบสงัดเกิดขึ้นท่านกลางตะวัน

เรื่องที่ 2 ครับ
เมื่อความเงียบสงัดเกิดขึ้นท่านกลางตะวัน

ตะวัน หนุ่มร่างสันทัด ผมยาว ตาโต ตะวันเป็นหนุ่มที่หากดูจากบุคลิกแล้ว
น่าจะเรียนช่างศิลป์ มากกว่าเรียนคอมพิวเตอร์ เพราะด้วยใบหน้าคมคาย ผมเรียวยาว ถึงกลางหลัง
วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่สำคัญมากในชีวิต สำหรับตะวัน
เพราะเป็นวันที่ตะวันจะต้องสอบโปรเจ็กเพื่อจบการศึกษาจากสถาบันแห่งนี้
ครอบครัว ญาติ พี่น้อง รอวันที่ตะวันเรียนจบ เพื่ออนาคตทั้งของตัวตะวันเอง และของทุกคน
หรือที่ตะวันมักพูดบ่อย ว่า "ผมเป็นความหวังของหมู่บ้านครับ"
ปกติตะวันเป็นคนพูดน้อย แต่ขยัน หรือทำมากกว่าพูด ตะวันไม่เคยขาดเรียนหากไม่จำเป็น
แม้การเรียนภาคค่ำของตะวัน จะทำให้ตะวันต้องเหน็ดเหนื่อยอย่างมากก็ตาม
ตอนนี้ตะวันเตรียมพร้อมกับการสอบโปรเจ็กเรียบร้อยแล้ว ในดวงตากลมโตใสซื่อ
กำลังครุ่นคิดถึงคำที่เพื่อนๆ คอยบอก อยู่ตลอดเวลา "เฮ้ย .. ตะวัน เอ็งต้องพูดนะ พูด พูด อธิบาย
พูดอย่าหยุด นะ พูดเข้าไว้ อาจารย์จะได้ไม่ถาม เพราะถ้าอาจารย์ถาม เอ็งต้องตอบไม่ได้แน่"
ตะวันกำลังตกอยู่ในพวัง ที่เต็มไปด้วยเสียงของเพื่อนๆ ก้องกังวานอยู่ตลอดเวลา
3 คืนมาแล้วที่ตะวันไม่ได้นอน เพราะพยายามซ้อมพูดอธิบาย โปรแกรมที่ตนเองเขียนขึ้น
ตะวันไม่ใช่คนเรียนเก่ง ที่มาถึงจุดนี้ได้ตะวันต้องอาศัยเพื่อนมาโดยตลอด
"ทำไมแอร์ในห้องนี้มันเย็นจังเลย ...." ตะวันพูดกับตัวเอง
"แล้วนี่เมื่อไหร่ กรรมการจะมาเสียที เหลือเวลาอีกห้านาที เฮ้อ....."
"ทำไมเวลามันถึงได้เดินช้าอย่างนี้นะ " เวลาค่อยๆ เดินถอยหลังอย่างเชื่องช้า
จนทำให้ตะวันเครียดมาก ดวงตาที่สดใสของตะวัน เริ่มบ่งบอกถึงความปริวิตก บางอย่าง
พลันนั้นเอง กรรมการทั้งสามคน ก็เดินเข้ามาในห้อง ที่มีอุณหภูมิเย็นเฉียบ
ทุกคนดูสนุกสนาม คุยหยอกล้อกัน
"โอยย... ทำไมกรรมการถึงเฮฮากันนักนะ เรารึ เครียดจะแย่อยู่แล้ว กรรมการจะมาไม้ไหนเนี่ย"
ตะวันเริ่มรำพันกับตัวเอง
"เอ้า.... เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า .... นักศึกษาพร้อมแล้วนะครับ?"
หนึ่งในกรรมการเอ่ยขึ้น ด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม
"นักษา เริ่มอธิบายโปรแกรมได้เลยครับ" กรรมการคนเดิมกล่าวต่อ
กรรมการแต่ละคนเริ่มแบนความสนใจมาที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่มีตะวันนั่งอยู่เบื้องหน้า
นาฬิกาที่ด้านขวาล่างของเครื่องคอมพ์ เดินขยับอย่างต่อเนื่อง 14.00 - 14.01 - 14.02 ...
14.05 ความเงียบยังคงปกคลุมบรรยากาศภายในห้องสอบ จนได้ยินเสียงเครื่องปรับอากาศ
ที่ทำงานอย่างเต็มกำลัง เพื่อผลิตความเย็นที่แสนจะยะเยือกสู่ทุกอนูขุมขน
"เอ้า... นักษา อธิบายโปรแกรมที่ นักษา ทำมาด้วยครับ" อีกหนึ่งกรรมการกล่าวย้ำ
แต่ความเงียบก็ยังคงปกคลุมปกคลุมบรรยากาศในห้องสอบต่อไป
มือของตะวัน ที่กุมเม้าส์อยู่ เริ่มมีเส้นปูดโปนปรากฏขึ้น ใบหน้าของตะวันเริ่มซีดเผือด
ดวงตาคู่นั้นแสดงออกถึงความกังวลที่มีมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ริมฝีปากสั่นระริก เวลาผ่านไปแล้วกว่าสิบนาที มันเป็นเวลาที่แสนยาวนานในความรู้สึกของตะวันเสียเหลือเกิน
กรรมการทุกคนต่างมองหน้ากัน พรางกระซิบกระซาบต่อกันว่า ทำไมนักษา ไม่ยอมพูด
บรรยากาศยังคงเงียบสงัด เสียงเครื่องปรับอากาศ ยังคงทำงานอย่างแข็งขันต่อเนื่อง

พลันนั้นเอง ตะวันก็เริ่มขยับริมฝีปากที่ซีดเผือด และสั่นไหว
เวลาตอนนี้ผ่านไปแล้วกว่า 20 นาที ไม่ใช่ตะวันเท่านั้นที่แสดงอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด
กรรมการทั้งสามก็เครียดด้วย แล้วตะวัน ก็กล่าวออกมาด้วยเสียงอันหนักแน่นว่า
......."ผมขออนุญาตไปห้องน้ำครับ ปวดมากทนไม่ไหวแล้ว..."

หมายเหตุ
บทความนี้ เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ห้ามใช้เป็นบรรทัดฐานในการสอบ
ตัวละครในเรื่อง ถือว่าไม่มีอยู่จริง ผู้เขียนขออภัย หากมีพฤติกรรมไปคล้ายหรือเหมือน
ผู้หนึ่งผู้ใด ผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาล้อเลียน

เรื่องอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน จะทยอย นำมาลงไว้ในที่นี้ เมื่อนึกขึ้นได้

อุ้ย เอง อะ

เรื่องถัดๆ ไป จะทยอยแจ้งให้ทราบ เมื่อเขียนเสร็จครับ

Thursday, October 7, 2010

เรื่องเล่า ในห้องสอบ(โปรเจ็ก) ตอนที่ 1 คีย์บอร์ด เม้าส์ และลอย

เรื่องที่ 1 ครับ
คีย์บอร์ด เม้าส์ และลอย


เช้าตรู่วันสอบโปรเจ็กของลอย
ลอยเดินขึ้นลิฟท์ อย่างความมาดมั่น ด้วยความที่ผมเกรียน ดวงตากลมโต
จมูกเบิกโพลง และเป็นคนพูดจาด้วยสำเนียงบ่งบอกถึงความเป็นลูกอีสาน
ลอยได่รับความเอ็นดูจากผองเพื่อน วิทย์คอมฯ ด้วยดีเสมอมา แม้จะพูดจาขัดใจเพื่อนอยู่บ่อยครั้ง

หลังจากเดินออกจากลิฟท์ ลอยตรงปรี่เข้าไปในสำนักงานสาขาคอมพ์ฯ มหา'ลัย มีชื่อแห่งหนึ่งย่านฝั่งธนบุรี
"พี่หลิง วันนี้ นี้ ผมจามาสอบ คับ อาจารย์มาพร้อมยัง"
ลอยถามเจ้าหน้าที่ ถึงคณะกรรมการที่ทำหน้าที่สอบลอย
ซึ่งปกติ ผู้สอบต้องมาถึงก่อนกรรมการอย่างน้อย 30 นาที แต่วันนี้ ลอยมาถึงก่อนเข้าสอบเพียง 5 นาที
เอากะมันสิ
"อาจารย์มากันหมดแล้ว... มีที่ไหนมาช้ากว่ากรรมการ เฮ้อ... อย่ามาทำจมูกฝึดฟัดใส่นะ" พี่หลิงสวนกลับ
เมื่อรู้ว่ากรรมการมาครบแล้ว ลอยจึงเดินเข้าไปยังห้องสอบ อย่างไม่อาทรร้อนใจ
เมื่อถึงเวลาสอบ ทั้งกรรมการ และผู้สอบ อยู่พร้อมกันในห้องสอบ เรียกว่า 3 ต่อ 1 ก็ได้ เพราะ ผู้สอบ 1 คน กรรมการ 3 คน
"เอ้า... ลอย ไหนอธิบายระบบที่ลอยทำมาซิ " กรรมการท่านหนึ่งเอ่ย
"อาจารย์ เอาตรงไหนก่อนหละ ผมทำมาเยอะ.... " นั่น... ลอยอวดสรรพคุณ ถึงปริมาณงานที่ตนเองทำมา
"ตรงไหนที่คิดว่า ดีสุด เจ๋งสุด พูดไปเลย" กรรมการท่านเดิม เอ่ย
ลอบจึงเริ่มบรรยาย รายละเอียดอย่างไม่ติดขัด แต่ด้วยถ้อยสำเนียง และความประหม่าลึกๆ ที่แอบแฝงอยู่
ทำให้ปากของลอยสั่นระริกเล็กน้อย
"ไหน ขอครูลองทดสอบ โปรแกรมสักหน่อย..." กรรมการคนเดิมกล่าว ในขณะที่กรรมการคนอื่น พยักหน้าเล็กน้อยเห็นด้วย
พลางกรรมการท่านนั้น ก็เอื้อมมือไปจับเม้าส์ ของคอมพิวเตอร์ที่ลอยกุมอยู่อย่างแน่นหนา
"อ้าววว... ปล่อยสิคะ ... ขอครูทดสอบโปรแกรมหน่อย" กรรมการคนเดิมกล่าวย้ำ
แต่แทนที่ลอย จะปล่อยมือที่กุมเม้าส์อยู่ กลับเป็นว่า ลอย กุมเม้าส์ อย่างแน่นขึ้นกว่าเดิม
กรรมการคนเดิม ทนไม่ไหว จึงสัพยอก ลอยว่า "อ้าววว ... มันเป็นไงเนี่ย ทำไมไม่ยอมปล่อยเม้าส์ แล้วอย่างนี้ครูจะสอบได้ไง"
พลันนั้นเอง ลอย ก็ตอบด้วยเสียงสั่น เครือ ด้วยความประหม่าที่มีเพิ่มมากขึ้น
"คือ.... คือ.... ว่า " เสียงของลอยสั่นเครือ ใบหน้าซีดเผือด จมูกเบิกโพรง
"คือว่า พี่สั่งไว้ครับ ..." ลอยตอบ
"อะไรกัน นี่สอบโปรเจ็ก นะลอย พี่ ที่ไหนมาสั่ง..." กรรมการถาม
"คือว่า พี่สั่งไว้จริงๆ ครับ ..." ลอยย้ำ
"เอ้า.... ไหน พี่ที่ไหนมาสั่ง แล้วสั่งว่าไร " กรรมการถามเน้น
"คือว่า...พี่สั่งว่า ตอนสอบ มีกฎ 3 ข้อท่องให้ขึ้นใจ แล้วจาสอบผ่านครับ " ลอยตอบ
"1. มือขวากุมเม้าส์ห้ามปล่อย ถ้าปล่อย อาจารย์จะครอบครองเม้าส์ทันที เราจะสูญเสียการควบคุมโปรแกรม
2. มือซ้ายครองคีย์บอร์ดห้ามเปิดโอกาสให้อาจารย์ จิ้มได้ เพราะจะทำให้ระบบเรา เอ๋อเหรอ
และ 3. ปากห้ามหยุดพูด ไม่เปิดโอกาสให้อาจารย์ถาม
ทำไงก็ได้ หน่วงเวลาให้เกิน 40 นาที แล้วจะสอบผ่าน พี่สั่งไว้ครับ " ลอยตอบด้วยเสียงกระเส่า
**************************************************
หมายเหตุ
บทความนี้ เป็นเรื่องที่แต่งขึ้น จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง ห้ามใช้เป็นบรรทัดฐานในการสอบ
ตัวละครในเรื่อง ถือว่าไม่มีอยู่จริง ผู้เขียนขออภัย หากมีพฤติกรรมไปคล้ายหรือเหมือน
ผู้หนึ่งผู้ใด ผู้เขียนไม่ได้มีเจตนาล้อเลียน

เรื่องอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน จะทยอย นำมาลงไว้ในที่นี้ เมื่อนึกขึ้นได้

อุ้ย เอง อะ

Friday, October 1, 2010

นำเสนอผลงาน SA 153 กลุ่ม 11 วิเคราะห์และออกแบบระบบ

SA153G120003




SA153G120004




SA153G120005




SA153G120006




SA153G120007




SA153G120008




SA153G120009




SA153G120010




SA153G120011




SA153G120012




SA153G120013




SA153G120014




SA153G120015




SA153G120016




SA153G120017





SA153G120018





SA153G120019




SA153G120020




SA153G120021




SA153G120022




SA153G120023




SA153G120024